Post : 06 / 02 / 2021
หากคุณเป็นเจ้าของบ้านและกำลังมองหาวัสดุปู้พื้นประเภทต่างๆแต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้
วันนี้ทางเรา โมดาโมเดิร์น (MODA-MODERN) จะนำไอเดียต่างๆมาสรุปให้ในโพสนี้ครับ
อย่างที่เราทราบกันดีวัสดุการปูพื้นนั้นมีหลากหลายชนิดมากๆ และแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและความเหมาะสมในการใช้งานที่แตกต่างกันก่อนที่คุณจะได้เลือกสรร ทางเราจะพยายามอธิบายรายละเอียดพอสังเขป
โดยรายละเอียดจะประกอบไปด้วย
1.วิธีการเลือกวัสดุปูพื้น
2.ประเภทของวัสดุปูพื้น
3.เปรียบเทียบคุณสมบัติของวัสดุปูพื้นแต่ละชนิด
โดยทั่วไปเราควรจะเลือกวัสดุปูพื้นให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละห้อง, จุดประสงค์การใช้งาน, และงบประมาณ โดยมีจุดที่ต้องสนใจดังนี้
1.ประเภท(การใช้งาน)ของห้อง : ปูพื้นห้องนอน, ปูพื้นห้องนั่งเล่น เราต้องคำนึงถึงการใช้งานเช่น ในห้องนั้นๆ ผู้ใช้งานเป็นใคร (ผู้ใหญ่ หรือเด็ก หรือ มีสัตว์เลี้ยงด้วยไหม)
2.งบประมาณ : ขอบเขตค่าใช้จ่ายที่เราพร้อมจ่าย
3.ความต้องการเฉพาะเจาะจง : บางครั้งการติดตั้ง หรือทำสีที่มีความเฉพาะเจาะจงจะต้องมีค่าใช้จ่ยอื่นๆเพิ่มเติมเข้าไปด้วย
4.รูปแบบ (Theme) : เพื่อให้งานทั้งหมดออกมาตรงตามที่เจ้าของบ้านต้องการ การมองเห็น สีสัน, โครงสร้าง ของห้องให้ชัดเจนก่อนการแจ้งรายละเอียดงานให้กับช่างจึงมีความจำเป็นมาก
วัสดุปูพื้นในปัจจุบันมีหลากหลายชนิดมากทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความชอบของคุณเจ้าของบ้านทุกท่าน โดยวันนี้เราจะพูดถึงวัสดุปูพื้นหลักๆ 4 ชนิด
ไม้จริงถ้าพูดตามตรงก็คือทำมาจากไม้จริงๆเลยครับ ซึ่งทางร้านเรามีจำหน่ายเป็นไม้สักพม่า โดยทั่วไปจะนิยม ปูพื้นด้วยขนาด 4”(นิ้ว) , 6”(นิ้ว), และ 8”(นิ้ว) ซึ่งผ่านกระบวนการอบ, ไส, รางลิ้น เรียบร้อยก่อนนำไปปูพื้น
ข้อดี :
1.มีความสวยงามตามธรรมชาติ
2.ปราศจากสารเคมี (เฉพาะกรณีที่ไม่ได้เคลือบสารเคมีใดๆ)
3.อายุการใช้งานยาวนาน
ข้อเสีย :
1.ราคาสูง
2.ใช้ระยะเวลาการจัดทำเพื่อการปูและขัดผิวค่อนข้างนาน
3.ต้องการการดูแลรักษามากกว่าววัสดุปูพื้นชนิดอื่นๆ
4.เป็นรอยขีดข่วนหรือหากโดนวัตถุที่มีน้ำหนักมากกระแทกอจจะเกิดการบุบหรือแตกได้
*** ทั้งนี้ราคาไม้สักปูพื้นของทางร้านเริ่มต้นอยู่ที่ 2,xxx (ราคายังไม่รวมค่าบริการปูพื้น) โดยทางร้านมีช่างปูพื้นมืออาชีพคอยให้บริการ
เป็นเทคโนโลยีที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อนำมาทดแทน ไม้จริง โดยทำมาจากการทำแผ่นวัสดุอัดรวมกันหลายๆชั้น ซึ่งพื้นไม้ลามิเนตในท้องตลาดที่จำหน่ายกันก็จะมีหลากหลายเกรด ซึ่งในปัจจุบันไม้พื้นลามิเนตจะเคลือบพื้นผิวป้องกันน้ำมาไว้อยู่แล้ว ทำให้ลูกค้าที่ติดตั้งมีความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อดี :
1.ประหยัดเวลาในการติดตั้ง
2.พื้นผิวสามารถทนต่อแรงกระแทก และรอยขีดข่วนได้ดีกว่า ไม้พื้นทั่วไป
3.มีสีให้เลือกหลากหลาย และลวดลายคล้ายกับไม้
ข้อเสีย :
1.มีโอกาสเกิดการบวมจากการโดนความชื้นได้บ่อย
2.ซ่อมแซมได้ยาก, ส่วนมากถ้ามีปัญหาจริงๆช่างจะแนะนำให้เปลี่ยนใหม่เลย ซึ่งทำให้อาจจะเสียเวลาติดตั้ง
3.ไม่ได้เหมาะสมกับทุกการใช้งาน เช่น จะมีปัญหาหากนำไปใช้งาน ในครัว หรือในห้องน้ำ
4.อายุการใช้งาน
คือการนำไม้จริงมาประกอบเข้ากับวัสดุอื่นๆ โดยส่วนมากพื้นผิวด้านบน 3 มม. จะเป็นพื้นผิวของเนื้อไม้พื้น ไม้จริง และประกอบเข้ากับวัสดุยึดไม้ ทำให้มีราคาที่ถูกลงกว่าไม้จริงทั้งแผ่น
ข้อดี :
1.ลูกค้าได้สัมผัสทุกอย่างใกล้เคียงกับไม้จริงมากๆ
2.ราคาถูกกว่าไม้จริง
ข้อเสีย
1.เนื่องจากต้องใช้การประกอบวัสดุต่าง จึงมีโอกาสที่จะต้องมีการใช้สารเคมี และหลงเหลือไปถึงลูกค้า ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงต่อผู้ใช้งาน
2.ความแข็งแรงยังไม่เทียบเท่ากับไม้จริง เนื่องจากการที่ต้องทำไม้จริงมาประกอบอีกทีทำให้โครงสร้างไม่ได้สมบูรณ์เทียบเท่ากับไม้พื้นไม้จริงทั้งแผ่น
3.อายุการใช้งาน
ถ้าให้อธิบายก็คือกระเบื้อง(มีทั้งเนื้อเซรามิก และกระเบื้องยางลายไม้) หากมองแบบผิวเผินด้วยตาเปล่า เราแทบจะแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนกระเบื้องอันไหนไม้จริง แม้ว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถปรับปรุงผิวสัมผัสให้กระเบื้องมีความใกล้เคียงกับไม้พื้น ไม้จริงแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถเหมือน 100% ได้
ข้อดี :
1.ราคาถูก
2.มีความเหมือนใกล้เคียงกับพื้นไม้จริง
3.การใช้งานคงทน ต่อทุกสภาวะ
ข้อเสีย :
1.อายุการใช้งาน
2.มาตราฐานของสินค้า หากเลือกสินค้าที่มาตราฐานไม่ดี มุมของกระเบื้องอาจจะทำให้ยากในการติดตั้ง
สุดท้าย ขออนุญาตฝากร้านด้วยครับ ทางเราจำหน่ายไม้พื้น ไม้สัก ซึ่งเป็นไม้จริง 100 % โดยมีขนาดมาตราฐานอยู่ที่ 4” , 6” , 8” (ถ้าลูกค้าต้องการขนาดอื่นๆสามารถแจ้งสั่งผลิตได้เลยครับ) ทางเรามีบริการทีมช่างปูมืออาชีพพร้อมให้บริการทั่วประเทศ ด้วยมาตราฐานของทางบริษัทเราคัดเฉพาะ พื้นไม้เกรด AAA หากสนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คลิก www.moda-modern.com/flooring
โทร 086-469-4797 หรือ
Line : @moda-modern